ข่าวในกระแสวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

เฟ้น 20 ทีม เข้ารอบ เวทีอีสานภูมิภาคสุดท้าย มท.จัดโครงการประกวดผ้าลายดอกรักราชกัญญา

คึกคัก กรมการพัฒนาชุมชนจัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม รวมถึงการตัดเย็บผ้าไทย ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” รอบคัดเลือกภาคตะวันออก เฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคสุดท้าย ได้ 20 ทีม โดยผู้ประกอบการด้านผ้าจาก จ.มหาสารคาม เข้ามาได้เยอะสุดถึง 5 ทีมเพื่อเข้าประกวดระดับภาคและระดับประเทศ ที่จะ คัดเลือกผ้าให้เหลือแค่ 50 ผืน เพื่อประกวดในรอบ ตัดสินต่อไป

ที่มณฑาทิพย์ ฮอลล์ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม และการประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดี กรมการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับ

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการผ้าไทยที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้พวกเราคนไทยทุกคนได้สวมใส่ผ้าไทยที่หลากหลายในรูปแบบที่มีความทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จึงดำเนินโครงการตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ผ่านการประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายดอกรักราชกัญญา และงานหัตถกรรม ซึ่งจะทำให้มีการตื่นตัวในการพัฒนาฝีมือการทอผ้าในทุกเทคนิคของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และช่างทอผ้าทุกคน ให้มีคุณภาพ มีความหลากหลาย และมีการประยุกต์รูปแบบลวดลายสีสันที่ร่วมสมัย ตามแนวพระดำริ รวมทั้งมีการเชิดชูเกียรติแก่ผู้สืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมด้วย

ด้านนายอรรษิษฐ์กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชน จัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายดอกรักราชกัญญาและงานหัตถกรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า และเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้า และงานหัตถกรรมทั่วประเทศ เปิดรับสมัครส่งผ้าลายพระราชทานเข้าประกวด จำนวน 14 ประเภท และงานหัตถกรรมตามชิ้นงาน ระหว่างวันที่ 1 พ.ค-4 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผลงานส่งเข้าประกวดจำนวน 7,330 ผืน แบ่งเป็นประเภทผ้าจำนวน 6,531 และ

งานหัตถกรรมจำนวน 799 ชิ้น ทั้งนี้ได้กำหนดการประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายดอกรักราชกัญญา และงานหัตถกรรมระดับภาค จำนวน 4 จุด ดำเนินการ ในพื้นที่ 4 ภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 24 ก.ย.จะดำเนินการประกวดระดับภาค รอบคัดเลือกที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กทม. เพื่อเข้าประกวดระดับประเทศรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 30 ก.ย.ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยจะคัดเลือกผ้าให้เหลือ 50 ผืน เพื่อประกวดในรอบตัดสินต่อไป

นายอรรษิษฐ์กล่าวด้วยว่า ขณะที่โครงการส่งเสริมการออกแบบตัดเย็บผ้าไทย ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการออกแบบตัดเย็บและการผลิตชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย ตลอดจนนักออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไทยจากทั่วทุกภาคของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางด้านการตลาดและเพิ่มรายได้ มีผู้สมัคร 270 ทีม โดยภาคใต้มีผู้สมัครเข้าประกวดมากที่สุด จำนวน 77 ทีม ขณะทีี่การประกวดในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รอบคัดเลือกเหลือ 20 ทีม ประกอบด้วย จ.เลย 1 ทีม จ.มหาสารคาม 5 ทีม จ.อุดรธานี 3 ทีม จ.บุรีรัมย์ 2 ทีม จ.นครราชสีมา 1 ทีม จ.นครพนม 2 ทีม จ.ขอนแก่น 1 ทีม จ.หนองบัวลำภู 1 ทีม จ.บึงกาฬ 1 ทีม และ จ.ร้อยเอ็ด 3 ทีม

“บรรยากาศการประกวดเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ประกวดได้นำเสนอผลงานภาพสเกตช์ พร้อมสตอรี บอร์ดหรือมู้ดบอร์ดของชุดที่จะออกแบบตัดเย็บอย่างมีเอกลักษณ์ งดงาม และน่าสนใจมาก โดยจะมีการเก็บคะแนนและคัดให้เหลือ 10 ทีม จะได้รับเงินสนับสนุน จำนวน 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการตัดเย็บชุด จัดหาผู้เดินแบบและค่าเดินทางเพื่อเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดหวังว่าทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบตัดเย็บหรือดีไซเนอร์ที่ดี มีผลงานการออกแบบตัดเย็บที่มีชื่อเสียง ในการพัฒนายกระดับผ้าไทยสู่สายตาชาวไทยและชาวโลก”

 

 

 ตร.จัดงบตัด "เครื่องแบบตำรวจจราจร" ลุยงานภาคสนาม เน้นคล่องตัว ปลอดภัย


ผบ.ตร.จัดสรรงบตัดเครื่องแบบให้ตำรวจจราจรทั่วประเทศ เกือบ 20,000 คน นับเป็นเครื่องแบบภาคสนามครั้งแรกของสายงานจราจร เกิดความคล่องตัว ปลอดภัย สร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจจราจร เพื่อดูแลประชาชนบนท้องถนน ดีเดย์พร้อมกัน 15 ก.ย.นี้ 

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตามดำริ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานจราจร โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงานได้ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ กำหนดหลักเกณฑ์รูปแบบเครื่องแบบ และสำรวจความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ จนได้ข้อสรุปเครื่องแบบจราจรเสนอ ตร. 

ต่อมา ผบ.ตร.ได้อนุมัติเครื่องแบบสนามตำรวจสายงานจราจรเป็นแบบเดียวกับสายงานป้องกันปราบปราม โดยเครื่องหมายใช้ด้ายสีขาวปักบนพื้นสีเดียวกับเครื่องแบบ และติดเครื่องแบบด้วยแถบหนามเตย ให้มีปลอกแขนจราจรสะท้อนแสง เครื่องแบบสามารถใช้ได้ทั้งสายงานป้องกันปราบปรามและงานจราจร หากมีการเปลี่ยนแปลงสายงาน พร้อมขออนุมัติกรมบัญชีกลาง เบิกจ่ายค่าผ้าและค่าตัดชุดเครื่องแบบสนาม รวมทั้งค่าเครื่องหมายตามที่ราชการกำหนด สำหรับข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่งานจราจรทั่วประเทศ จำนวน 19,662 คน แล้วโอนเงินไปให้หน่วยทำการจัดซื้อจัดจ้าง เร่งรัดดำเนินการตัดเครื่องแบบ กำหนดใส่เครื่องแบบฯ ภายใน 15 ก.ย. 66  โดยพร้อมเพรียงกัน” ...

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า “สายงานจราจรมีความสำคัญ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ออกช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน ปฏิบัติตามนโยบาย ตร.ในการกำหนดมาตรการลดและป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย 

การมีเครื่องแบบสนามเหมือนกับสายงานป้องกันปราบปราม เป็นแบบเดียวกันทั้งประเทศ จะช่วยให้การทำงานเกิดความคล่องแคล่ว คล่องตัว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการมอบเครื่องแบบภาคสนามสายงานจราจรของ ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ถือเป็นชุดภาคสนามครั้งแรกของตำรวจจราจร เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจสายงานจราจรอีกด้วย”.

เช็กเลย วันหยุดราชการ 28 ก.ค.-2 ส.ค. ขึ้นทางด่วนฟรีวันไหน เส้นไหนบ้างเช็กเลย วันหยุดราชการ 28 ก.ค.-2 ส.ค. ขึ้นทางด่วนฟรีวันไหน เส้นไหนบ้าง

เช็กที่นี่ วันหยุดราชการ วันหยุดยาว 28 ก.ค.-2 ส.ค. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดให้ขึ้นทางด่วนฟรีวันไหน และเส้นไหนบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประชุม ครม. ได้มีมติให้วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เป็นวันหยุดเพิ่มอีก 1 วัน ทำให้ข้าราชการมีวันหยุดยาว 6 วัน ดังนี้

  • วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 : วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 (หยุดทั้งข้าราชการ, ภาคเอกชน, ธนาคาร)
  • วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566
  • วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566
  • วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 : วันหยุดกรณีพิเศษ (หยุดเฉพาะ : ข้าราชการ, ภาคเอกชน และ ธนาคารไม่หยุด)
  • วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2566 : วันอาสาฬหบูชา (หยุดทั้งข้าราชการ, ภาคเอกชน, ธนาคาร)
  • วันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 : วันเข้าพรรษา (หยุดเฉพาะ : ข้าราชการ, ภาคเอกชน และ ธนาคารไม่หยุด)

ขณะที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ประกาศว่า วันที่ 28 กรกฎาคม และวันที่ 1-2 สิงหาคม 2566 กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สายทาง ดังนี้

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 19 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 31 ด่าน
  • ทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 10 ด่าน

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุด และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม สำหรับวันหยุดตามมติคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมในวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ไม่ใช่วันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จึงไม่มีการยกเว้นค่าผ่านทางในวันดังกล่าว.

 

 จันทรุปราคาวันลอยกระทง อาถรรพณ์อุบาทว์ความเชื่อ 57 นาที ห้ามอาบแสง

จันทรุปราคาวันลอยกระทง อาถรรพณ์อุบาทว์ความเชื่อ 57 นาที ห้ามอาบแสง

8 พ.ย. 2565 วันลอยกระทง จะเกิดเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ตั้งแต่เวลา 17.44–18.41 น. รวมทั้งสิ้น 57 นาที แต่ตามความเชื่อโบราณช่วงเวลาการเกิดจันทรุปราคา จะทำให้เกิดอาถรรพณ์อุบาทว์กับคนที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือบุคคลผู้มีวิชาต้องหลีกเลี่ยงแสงช่วงเวลาดังกล่าว

“อัมรินทร์ สุขสมัย” ผู้ศึกษาด้านโหราศาสตร์และไสยเวท กล่าวว่า การเกิดจันทรุปราคาในวันลอยกระทง ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ตามหลักความเชื่อโบราณถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดี คนสมัยก่อนเชื่อว่า ห้ามถูกแสงในช่วงเวลาเกิดจันทรุปราคา ห้ามเอานิ้วไปชี้ ห้ามแหงนมอง ยิ่งในคนที่มีความเชื่อและเรียนคาถาอาคม ต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด เพราะอาจทำให้ของที่อยู่ในตัวเสื่อม จึงหลีกเลี่ยงการถูกแสงช่วงเวลานั้นด้วยการหลบอยู่ในบ้าน

“ความเชื่อระหว่างเกิดจันทรุปราคา จะเกิดการคราสที่หมายถึงการกลืนกิน โดยมีความเชื่อว่าโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของราหู การเกิดเงามืดแบบผิดปกติบนผิวโลก คนในสมัยก่อนเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติ เมื่อเกิดการคราสจะมีเสียงนกร้องหรือบินกลับรัง สิ่งนี้ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ที่วิทยาศาสตร์ยังไม่ได้พัฒนามาไกลเหมือนเช่นปัจจุบัน เลยเกิดความเชื่อว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงอาถรรพณ์อุบาทว์”

ช่วงที่เกิดจันทรุปราคา บางพื้นที่มีคาถาสวด เช่น พื้นที่ภาคกลาง มีคาถาสวดไล่ อย่างลูกศิษย์สายหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง แต่ถ้าเป็นภาคอีสานบางพื้นที่มีการสวดรับพระราหู เพื่อเข้ามาคุ้มครอง หลังจากนั้นจะมีการสวดส่ง

SPONSORED

การปฏิบัติในช่วงการเกิดจันทรุปราคา ในวันลอยกระทงที่มีเวลาประมาณ 57 นาที ควรหลีกเลี่ยงการลอยกระทงช่วงเวลาดังกล่าว เพราะเชื่อว่ามีแต่ความมืดมัว เนื่องจากดวงจันทร์ต้องมลทิน จึงต้องรอให้ดวงจันทร์กลับมาเป็นปกติ ถึงจะสามารถกลับมาลอยกระทงได้

จันทรุปราคาวันลอยกระทง อาถรรพณ์อุบาทว์ความเชื่อ 57 นาที ห้ามอาบแสง

“มีบางคนระบุว่า แสงช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ แต่ตามตำราโบราณถือว่าเป็นช่วงเวลาอุบาทว์ และไม่เป็นมงคลต่อชีวิต ถือเป็น 1 ใน 8 อุบาทว์ใหญ่ ตามตำราโบราณช่วงที่เกิดจันทรุปราคา จะให้สวดมนต์ไหว้พระอยู่ในบ้าน ห้ามออกมานอกชายคาเด็ดขาด”

ขณะนี้มีความเชื่อมากมายอยู่ในโลกโซเชียล จนทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ทราบว่าอะไรเป็นความเชื่อดั้งเดิม แต่มีการสร้างความเชื่อใหม่ที่แฝงผลประโยชน์ต่างๆ ดังนั้นการเลือกจะเชื่ออะไรควรดูความเหมาะสม และเข้ากับสถานการณ์การใช้ชีวิตของตัวเอง ซึ่งไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น.

 


“ศรีสุวรรณ จรรยา” บุก กกต. จี้สอบปมนายทุนจีนถูกจับค้ายาบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่

วันที่ 28 ต.ค. 2565 เวลา 13.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องชี้เบาะแสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ กรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนยอมรับว่า มีนายทุนจีนที่อาจแปลงสัญชาติเป็นไทย บริจาคเงินเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อปี 2564 เป็นจำนวน 3 ล้านบาท โดยมีหลักฐานปรากฏในเอกสาร กกต. เป็นที่รับรู้กันโดยกว้างขวางแล้วนั้น เป็นการฝ่าฝืน ม.44 ม.72 และหรือ ม.74 ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่

ทั้งนี้บุคคลดังกล่าว ปรากฏเป็นข่าวหลังกรณีตำรวจบุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา ที่ลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบยาเสพติดหลากหลายรายการ อาทิ ยาเค, ยาแฮปปี้วอลเตอร์, ไฟว์ ไฟว์ รวมทั้งรถหรูอีกมากมาย ซึ่งบุคคลดังกล่าวยังเป็นหุ้นส่วนในบริษัทต่างๆ อีกหลายบริษัท ซึ่งบริษัทต่างๆ เหล่านั้น มีนอมินีถือหุ้นแทนต่างด้าวหรือไม่ อย่างไร เพราะอาจเกี่ยวพันและเชื่อมโยงต่อการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองที่ปรากฏเป็นข่าวได้ ที่สำคัญบุคคลดังกล่าวแม้จะโอนสัญชาติเป็นไทยแล้วก็ตาม แต่ได้สละสัญชาติเดิมของตนแล้วหรือไม่ หรือยังคงถือ 2 สัญชาติอยู่

โดยกรณีดังกล่าวมีกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดเป็นข้อห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดจากบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขาอยู่ในหรือนอกราชอาณาจักรไทยตาม ม.74 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 อีกทั้ง ม.72 ยังห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยออยนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.